เดินป่า เข้าสวนทีไร มีแต่ #ยุงลาย #ทาก ดูดเลือด แมลงอื่นๆ คอยกวนใจทำให้ไม่สนุกโดยเฉพาะหน้าฝน ...อีกทั้งยังเป็นพาหะนำโรคบางชนิดมาสู้ตัวเราได้
...สาร DEET ถูกค้นพบและพัฒนาขึ้นมาในปี 2487 หรือ 80 ปีที่ผ่านมา โดยกระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา เพื่อใช้ในกองทัพ และได้ใช้ในพลเรือนเอเชียตะออกเฉียงใต้ในปี 2499
สารขับไล่แมลง
N , N -Diethyl- meta -toluamideเรียกอีกอย่างว่า diethyltoluamide หรือ DEET ( / d iːt /จาก DET ซึ่งเป็นคำย่อของ di- + ethyl + toluamide) เป็นสารออกฤทธิ์ที่เก่าแก่ที่สุด มีประสิทธิภาพมากที่สุด และเป็นสารออกฤทธิ์ที่พบได้บ่อยที่สุดในสารขับไล่แมลงเชิงพาณิชย์
DEET สารขับไล่แมลงที่ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อม (EPA) ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ แม้แต่กับหญิงตั้งครรภ์และสตรีให้นมบุตร ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ได้ประเมินข้อมูลที่ตีพิมพ์ในเอกสารทางวิทยาศาสตร์ที่ผ่านการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญและข้อมูลที่ได้รับจาก EPA เพื่อระบุผลิตภัณฑ์หลายประเภทที่ขึ้นทะเบียนกับ EPA ซึ่งสามารถป้องกันการถูกแมลงกัดได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
ประสิทธิผล
น้ำมันสีเหลืองอ่อนที่ใช้ทาบนผิวหนังหรือเสื้อผ้าและปกป้องจากยุง แมลง เห็บ หมัด ตัวไร ทากและแมลงกัดต่อยอื่นๆ อีกมากมาย DEET มีความที่ไม่พึงประสงค์หลายอย่าง ละลายพลาสติกและผ้าสังเคราะห์ และทำปฏิกิริยากับครีมกันแดด DEET และไอคาริดินเป็นสารขับไล่แมลงที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด DEET มีประสิทธิภาพต่อสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังหลายชนิดเช่นทากดูดเลือด รวมทั้งเห็บ แมลงวัน ยุง และพยาธิบางชนิด สรุปได้ว่าสารทั้งสองชนิดนี้เป็นสารขับไล่ยุงที่ได้รับความนิยมเท่าเทียมกัน โดยระบุว่า DEET 50% ขึ้นไป ทำให้การปกป้องที่ยาวนานกว่า
ความเข้มข้นความเข้มข้นของ DEET ในผลิตภัณฑ์อาจอยู่ในช่วงตั้งแต่ต่ำกว่า 10% ถึงเกือบ 100% แต่ความเข้มข้นที่มากกว่า สามารถใช้ความเข้มข้นที่สูงกว่ากับเสื้อผ้าได้อย่างปลอดภัย แม้ว่าอาจทำให้เส้นใยสังเคราะห์บางประเภทเสียหายก็ตาม
โดยทั่วไปแล้ว ความเข้มข้นของสารออกฤทธิ์ที่สูงขึ้นจะให้ระยะเวลาการปกป้องที่ยาวนานขึ้น เข่น DEET 95% จะมีสาร DEET 95% และส่วนผสมของเมํานอบและพอลิเมอร์ที่อีก 5% เพื่อยืดเวลาการปลดปล่อยและลดอัตราการระเหย ผลิตภัณฑ์ที่มีสารออกฤทธิ์น้อยกว่า 10% อาจให้การปกป้องได้เพียงจำกัด ซึ่งมักจะอยู่ได้ 1-2 ชั่วโมง ผลิตภัณฑ์ที่มีสูตรออกฤทธิ์ช้าหรือควบคุมการออกฤทธิ์ (ไมโครแคปซูล) แม้จะมีความเข้มข้นของสารออกฤทธิ์ที่ต่ำกว่า อาจให้ระยะเวลาการปกป้องที่ยาวนานขึ้น
DEET กับครีมกันแดดนักเดินทางควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ผสมครีมกันแดดกับสารขับไล่แมลงเพราะจะทำให้ประสิทธภาพครีมกันแดดลดลงและอาจจะเกิดปฎิกริยาทางเคมีได้
DEET กับเสื้อผ้ากับอุปกรณ์DEET เป็นตัวทำละลาย พลาสติกเรยอน สแปนเด็กซ์ ผ้าสังเคราะห์อื่นๆ และพื้นผิวที่ทาสีหรือเคลือบเงารวมถึงน้ำยาทาเล็บ นอกจากนี้ยังอาจทำหน้าที่เป็นพลาสติไซเซอร์โดยคงอยู่ภายในพลาสติกแข็งบางชนิด ทำให้พลาสติกอ่อนตัวและยืดหยุ่นมากขึ้น DEET เข้ากันไม่ได้กับเสื้อผ้าที่ ทำจากเรยอน อะซิเตทหรือไดเนล
สรุปจากประสบการณ์ของเจ้าของเวบเอง สังเกตุจากนักท่อง มากกว่า 10 ปี จากการทำท่องเที่ยวเดินป่า แค้มปิ้ง การใช้สาร DEET และข้อควรระวัง ดังนี้1. สาร DEET เป็นสารขับไล่แมลงที่ไปทำลายส่วนประสาทในการรับรู้ไม่ให้มากัด
2. ความเข้มข้นสูงจะมีผลต่อการป้องกันในระยะยาวขึ้น ถ้าไม่มีน้ำไปชะช้างมันออก
3. ใช้ฉีดพ่นหรือทาผิวหนังโดยตรงได้อย่างปลอดภัย ห้ามฉีดพ่นบริเวรผิวที่บอบบาง ที่ใบหน้า ห้ามเข้าปากและส่วนที่เป็นแผล
4. ไม่ควรฉีดพ่นหรือทาร่วมกับครีมอื่นๆ ซึ่งจะทำให้เกิดปฎิกริยาที่ไม่คาดคิดได้และทำให้ประสิทธิภาพลดลง
5. ไม่ควรฉีดพ่นหรือทาลงบนเสื้อผ้าและถุงเท้าโดยตรง โดยเฉพาะเสื้อผ้าสังเคราะห์ สาร DEET จะเข้าไปทำลายโครงสร้างของเส้นใยสังเคราะห์ทำให้อ่อนเสียรูปทรงได้ง่าย ส่วนถุงเท้าสาร DEET จะไปทำลายส่วนของยางยืด ทำให้ยางยืดอ่อนตัว ไม่มีความยืดหยุ่น
6. ไม่ควรใช้กับเด็กเล็ก
DEET ได้รับความไว้วางใจขององค์การอนามัยโลก (WHO) และ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) เป็นสารต่อต้านแมลงที่ดีที่สุดและปลอดภัย สามารถนำมาใช้กับเด็กโตและผู้ใหญ่ การป้องกันที่มีประสิทธิภาพ จะต้องมีสาร DEET มากกว่า 50% และจะปกป้องได้นานขึ้น ยิ่งสาร DEET มากเท่าไหร่ก็ยิ่งปกป้องนานขึ้นเท่านั้น อย่างเช่น
DEET95 จะมีสาร DEET 95% จะปกป้องได้ยาวนานขึ้นถึง 7 ชั่วโมง
... ปัจจุบันขวดแบบสเปรย์ฉีดพ่นจะได้รับความนิยมไม่เปื้อนมือ และจะมีฉลากกำกับ % สาร DEET ระบุไว้
------------------------
ช่องทางสอบถามและสั่งซื้อ DEET95
Call Center : 0869088428
** แค้มปิ้งดีดี campingDD ได้จดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิคเป็นที่เรียบร้อย เมษายน 2561 เมืองนนทบุรี